ปัจจุบันคนสนใจการปลูกพืชไร้ดินในระบบไฮโดรโป นิกส์เป็นจำนวนมาก นักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงคิดพัฒนาต้นแบบชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์ Hydro55-type ใช้ต้นทุนน้อย สามารถปลูกได้หลายต้นต่อหนึ่งรอบเก็บเกี่ยว และสามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 45 วัน โดยได้ทดลองกับการปลูกผักสลัดต่างประเทศ ซึ่งพบว่าผักมีการเจริญเติบโตปกติในสารละลายอาหารที่ได้ผ่านการทดลองมาแล้ว นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้คิดค้นสูตรธาตุอาหารที่เหมาะกับพืชผักแต่ละชนิด เพื่อใช้ในการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์อีกด้วย
ชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์สามารถซื้อได้ในราคาประหยัดและสะดวกในการจัดวางบริเวณที่พัก อาศัย รวมทั้งสามารถจัดการและดูแลได้ง่าย โดยเฉพาะในการปลูกผักสลัดต่างประเทศทั่วไป ซึ่งผักมีการเจริญเติบโตปกติในสารละลายอาหารที่ได้ผ่านการทดลองแล้วและผักที่ปลูกสามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 45 วัน สามารถปลูกได้ 2 ลักษณะคือ ใช้ระบบปั๊มอากาศ ซึ่งสะดวก ง่าย และไม่ต้องห่วงว่าระบบรากพืชจะขาดออกซิเจนเพราะถ้าระบบพืชขาดออกซิเจนจะเกิด อาการเหลืองที่ใบและผลจะร่วง พืชได้รับความเสียหาย สำหรับพืชที่เหมาะสำหรับการปลูกระบบนี้ได้แก่ มะเขือเทศ แตง ผักกินใบทุกชนิด และอีกระบบคือ ระบบไม่ใช้ปั๊มอากาศ แต่ผู้ปลูกต้องมีทักษะความชำนาญการปรับลดระดับสารละลายธาตุอาหารที่ใช้เลี้ยงระบบพืช เมื่อพืชผักโตขึ้นต้องปรับลดระดับของสารละลายให้เกิดสภาพระบบรากพืชไม่จม แช่ อยู่ในสารละลายทั้งหมด มีบางส่วนของช่วงระหว่างโคนลำต้นของพืชกับระบบรากมีช่องว่างสัมผัสอากาศได้บ้าง พืชผักที่ปลูกได้ในระบบนี้ได้แก่ ผักบุ้งจีน ขึ้นฉ่าย ฯลฯ
“นอกจากนี้ยังมีการวิจัยและพัฒนาในส่วนของสารละลายธาตุอาหารที่ใช้กับพืชผัก ที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์คือการใช้ปริมาณความเข้มข้นของสารละลายธาตุอาหาร ให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดและน้ำที่ใช้เตรียมเป็นสารละลาย รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ความเข้มของแสง ความ เป็นกรด-ด่างของน้ำ สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรค แมลง หากสามารถจัดการปัจจัยต่าง ๆ ได้สมบูรณ์และถูกต้องมากที่สุด ต้นพืชผักที่ปลูกก็จะเจริญงอกงามและให้ผลผลิตที่ดี”
ข้อดีของการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์คือ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่แม้ในพื้นที่ซึ่งสภาพดินไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืชและ ยังปลูกได้ในปริมาณมากในพื้นที่น้อย ใช้เวลาเก็บเกี่ยวสั้น โรคและแมลงน้อย ธาตุอาหารถูกนำไปใช้อย่างสูงสุด ลดการใช้แรงงานคน ส่วนข้อเสียคือ ต้นทุนการติดตั้งระบบครั้งแรกค่อนข้างสูง โรคและแมลงสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วถ้าหากควบคุมไม่ได้ ดังนั้นต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเกี่ยวกับการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์และการ จัดการธาตุอาหารอย่างเหมาะสม
ชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์สามารถซื้อได้ในราคาประหยัดและสะดวกในการจัดวางบริเวณที่พัก อาศัย รวมทั้งสามารถจัดการและดูแลได้ง่าย โดยเฉพาะในการปลูกผักสลัดต่างประเทศทั่วไป ซึ่งผักมีการเจริญเติบโตปกติในสารละลายอาหารที่ได้ผ่านการทดลองแล้วและผักที่ปลูกสามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 45 วัน สามารถปลูกได้ 2 ลักษณะคือ ใช้ระบบปั๊มอากาศ ซึ่งสะดวก ง่าย และไม่ต้องห่วงว่าระบบรากพืชจะขาดออกซิเจนเพราะถ้าระบบพืชขาดออกซิเจนจะเกิด อาการเหลืองที่ใบและผลจะร่วง พืชได้รับความเสียหาย สำหรับพืชที่เหมาะสำหรับการปลูกระบบนี้ได้แก่ มะเขือเทศ แตง ผักกินใบทุกชนิด และอีกระบบคือ ระบบไม่ใช้ปั๊มอากาศ แต่ผู้ปลูกต้องมีทักษะความชำนาญการปรับลดระดับสารละลายธาตุอาหารที่ใช้เลี้ยงระบบพืช เมื่อพืชผักโตขึ้นต้องปรับลดระดับของสารละลายให้เกิดสภาพระบบรากพืชไม่จม แช่ อยู่ในสารละลายทั้งหมด มีบางส่วนของช่วงระหว่างโคนลำต้นของพืชกับระบบรากมีช่องว่างสัมผัสอากาศได้บ้าง พืชผักที่ปลูกได้ในระบบนี้ได้แก่ ผักบุ้งจีน ขึ้นฉ่าย ฯลฯ
“นอกจากนี้ยังมีการวิจัยและพัฒนาในส่วนของสารละลายธาตุอาหารที่ใช้กับพืชผัก ที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์คือการใช้ปริมาณความเข้มข้นของสารละลายธาตุอาหาร ให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดและน้ำที่ใช้เตรียมเป็นสารละลาย รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ความเข้มของแสง ความ เป็นกรด-ด่างของน้ำ สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรค แมลง หากสามารถจัดการปัจจัยต่าง ๆ ได้สมบูรณ์และถูกต้องมากที่สุด ต้นพืชผักที่ปลูกก็จะเจริญงอกงามและให้ผลผลิตที่ดี”
ข้อดีของการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์คือ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่แม้ในพื้นที่ซึ่งสภาพดินไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืชและ ยังปลูกได้ในปริมาณมากในพื้นที่น้อย ใช้เวลาเก็บเกี่ยวสั้น โรคและแมลงน้อย ธาตุอาหารถูกนำไปใช้อย่างสูงสุด ลดการใช้แรงงานคน ส่วนข้อเสียคือ ต้นทุนการติดตั้งระบบครั้งแรกค่อนข้างสูง โรคและแมลงสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วถ้าหากควบคุมไม่ได้ ดังนั้นต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเกี่ยวกับการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์และการ จัดการธาตุอาหารอย่างเหมาะสม
ผู้สนใจการปลูกพืชผักระบบไฮโดรโปนิกส์ สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม จำกัด
สำนักงานเลขที่ 933 ถนนอ่อนนุช แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
โทร. : 0-2333-1125
แฟกซ์ : 0-2333-1124
อีเมล์ : info@ackhydrofarm.com
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 18 เมษายน 2553
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=38280&NewsType=2&Template=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น